ผลการตรวจเลือดบอกอะไร คุณก็สามารถรู้เองได้-ตอนที่ 1
หัวข้อบรรยาย : อ่านผลเลือดตรวจสุขภาพด้วยตัวเองได้ง่ายๆ
บรรยายโดย : อ.นพ.กรภัทร มยุระสาคร
(คณะแพทย์ศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล)
ผลการตรวจเลือดบอกอะไร คุณก็สามารถรู้เองได้ ตอนที่ 1
สวัสดีครับ กินอยู่ดีโดยหมอนัด นะครับ หรือว่าถ้าใครติดตามผ่านเฟสบุคก็เป็น เป็นเฟสบุค หมอนัดโภชนาการนะครับ วันนี้ก็เป็นวันสบายๆ ก็ถือว่าเอาเรื่องง่ายๆ มาเล่ากัน จุดประสงค์ผม จริงๆ แล้วถ้าใครได้ดูในคลิปก่อนๆ คือ ในเรื่องบางเรื่องเนี่ย เราควรจะเรียนรู้ในเรื่องของการดูแลตัวเองได้นะครับ วันนี้ก็เลยอยากจะมาลองเล่าให้ฟังนะครับ เราเริ่มมาจากเมื่อตอนท่านไปตรวจสุขภาพปีละครั้ง ต้องบอกไว้ก่อนนะครับว่า ทั้งหมดที่เห็นอยู่นี้เป็นค่าปกติของผลเลือด
ค่าปกติหมายความว่ายังไงครับ เราทำการวินิจฉัยมาแล้วว่า ค่าปกติเหล่านี้เป็นค่าที่คนโดยทั่วไปจะได้ค่าราวๆ นี้
เราจะเริ่มจากค่าน้ำตาลก่อนนะครับ ค่าน้ำตาลคนปกติ ก็จะอยู่ 70-100 มิลลิกรัม แต่เราพบว่าคนที่เริ่มที่จะเผาผลาญน้ำตาลไม่ค่อยดีเนี่ย ค่าน้ำตาลในการตรวจแต่ละปี ก็จะขึ้น 90 95 99 ไปเรื่อยๆ นะครับ เพราะฉะนั้นหลายคนถามผมว่า เอ้ย น้ำตาลที่ไม่เกินร้อยนี่ ไม่เป็นเบาหวานใช่ไหม ก็ต้องตอบตามตัวเลขว่าจริง ครับ เพราะฉะนั้นตามเกณฑ์ปัจจุบันถ้าน้ำตาลเริ่มเกิน 100 (อันนี้กรณีอดอาหารนะครับ) แต่กรณีไม่อดอาหาร เวลาเรากินอาหาร น้ำตาลมีโอกาสสูงได้ เพราะระบบการเผาผลาญต้องใช้เวลา แต่ถ้าเรากินอาหารไปแล้วเราจะวัดน้ำตาลที่ 2 ชั่วโมงหลังอาหาร นะครับ ซึ่งน้ำตาลไม่ควรเกิน 140 เราพบว่าการตรวจน้ำตาลหลังอาหาร เป็นการตรวจวินิจฉัยเบาหวานในระยะแรกที่ดีกว่าการอดอาหาร หลายคนถามว่า กินข้าวแล้วเจาะเลือดได้ไหม ได้ครับ แล้วดีด้วยนะครับ การเจาะเลือดหลังอาหารสะท้อนให้เห็นว่า อาหารที่เรากินนั้น ร่างกายสามารถดูดซึม หรือ เผาผลาญได้หรือไม่ ดังนั้น ไม่จำเป็นว่าเวลาท่านกินอาหารไปแล้ว น้ำตาลจำเป็นจะต้องสูงเสมอไป ไม่จริงนะครับ บางคนร่างกายแข็งแรง กินไปแล้วน้ำตาลก็ต่ำ เผลอๆ ต่ำกว่าตอนแรกก็มีนะครับ
ค่าไตนะครับ ค่าไตเราวัดที่เรียกว่าค่า BUN(ค่าทำงานไต) และก็ครีเอตินีน ค่าปกติ แต่โดยมากเราจะดูค่าครีเอตินีนเป็นหลัก ค่าจะอยู่ราวๆ นี้ ในปัจจุบันเราก็จะคำนวณในตัวพิเศษ เอาเป็นว่า เวลาท่านไปเปิดเดี๋ยวหลังจากดูคลิปนี้ ท่านไปเปิดผลเลือดนะครับ เราจะเห็นค่าเหล่านี้ อันนี้เป็นค่าประมาณนะครับ แต่ละโรงพยาบาลก็จะมีค่าที่แตกต่างกัน
ต่อมายูริค เอสิด มีทั้ง ผู้ชาย ผู้หญิง นะครับ อ้นนี้ตัวล่างจะเป็นของผู้ชาย ตัวบนจะเป็นของผู้หญิง นะครับ ยูริค เอสิด โดยมากก็ไม่ค่อยได้เจอบ่อย ยกเว้นเขามา ปวดข้อปวดเข่า ถึงค่อยตรวจนะครับ
เรามาดูตัวไขมัน ตัวนี้น่าสนใจนะครับ ไขมันในเลือดเราเนี่ย คือในศัพท์ ภาษาอังกฤษจะมีคำว่า Fat, Lipid, Cholesterol นะครับ ไขมันมีหลายหมวด แต่ว่าในภาษาไทยในความหมายก็คือ Cholesterol นั่นเอง นะครับ Cholesterol ในร่างกายอย่างที่ในคลิปก่อนๆ เคยบอกนะครับ ประกอบไปด้วยหลักๆ ก็คือไขมันที่เรียกว่า LDL คือไขมันตัวร้าย แต่จริงๆ แล้ว LDL มีความสำคัญ เพราะ LDL นั้นเป็นไขมันคอยส่งสารต่างๆ เข้าไปสู่เซลล์โดยเฉพาะของไขมันนั่นเองนะครับ ดังนั้น LDL มีทั้งข้อดี ข้อเสีย นะครับ แต่ Cholesterol เป็นสารตั้งต้นพวกฮอร์โมนต่างๆ ฮอร์โมนเพศ ฮอร์โมนหลายอย่าง ดังนั้น ในข้อเสียมันยังมีข้อดีเยอะมากๆ นะครับ ใครที่ไม่มีตัวนี้ก็คงจะอยู่ไม่ได้นะครับ
ไขมันต่อมาที่เราเจอในเลือดก็คือ HDL หรือเราเรียกว่าไขมันตัวดี แต่ละอันมีค่าปกติ LDL จริงๆ แล้วค่าปกติไม่ได้อยู่ที่ 100 นะครับ ค่าปกติแล้วแต่ความเสี่ยง เพราะเราพบว่าบางคนที่ Cholesterol สูง แต่ความเสี่ยงอื่นๆ ไม่มี คนเหล่านี้โอกาสที่จะเกิดเส้นเลือดสมองแตก โรคหัวใจก็น้อย นะครับ ซึ่งคนที่มีความเสี่ยงน้อยเนี่ย LDL ค่าปกติเขาอยู่ต่ำกว่า 160 แต่อันนี้บอกเลยนะครับ โรงพยาบาลส่วนใหญ่ ชอบให้คนไข้ Cholesterol ต่ำเป็นหลัก หรือบางทีแพทย์ต่างๆ ก็จะถูกเรียนมาว่า Cholesterol ต้องต่ำเป็นหลัก นะฮะ ต้องบอกเลยว่า ไม่จำเป็น เพราะฉะนั้น ค่าปกติของในแต่ละโรงพยาบาล บางทีก็ตั้งไว้ที่ 130 นะครับ เพราะฉะนั้นเวลา Cholesterol เรา 131 หน่อยหนึ่ง เป็นไงฮะ มันก็จะติดตัวแดง ก็คือสูง ใช่ไหมครับ และหมอส่วนใหญ่ก็แนะนำให้คนไข้กินยาเป็นหลัก
เพราะฉะนั้น วันนี้เข้าใจนะครับ ว่า คนไหนความเสี่ยงน้อย คือ ไม่สูบบุหรี่ ไม่เป็นเบาหวาน ไม่เป็นความดัน หรืออายุไม่มากนักเนี่ย Cholesterol LDL ต่ำกว่า 160 ก็คือว่าใช้ได้
[ขอบคุณ นพ.กรภัทร มยุระสาคร สำหรับข้อมูล ไว้ ณ ที่นี้ด้วย]
[ถอดคำบรรยายจากคลิปคุณหมอ โดย S.J.Bank]